มกราคม 16, 2025

ชีวิตต้อง “คิดเผื่อ” อะไรบ้าง ให้อยู่ได้อย่างมีความสุข

“คิดเผื่อ” คือการคิดเพื่อวางแผนล่วงหน้าเอาไว้สำหรับใช้รับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งเพราะไม่มีใครรู้ว่า วันพรุ่งนี้จะต้องเจอกับอะไร การที่เราไม่คิดเผื่อ ไม่วางแผนอะไรเอาไว้เลย เมื่อเกิดมีปัญหาขึ้นมา ก็อาจหนักหนาจนทำให้เราท้อและก้าวต่อไปไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น ทั้งนี้ ในชีวิตเราทุกคนล้วนมีสิ่งที่ควรต้องคิดเผื่อไว้มากมาย แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่ทุกคนต้องเจอเหมือนกันและควรคิดเผื่อเพื่อรับมือไว้นั้น มีดังต่อไปนี้

1.“คิดเผื่อวันที่เจ็บไข้” ว่าเราจะผ่านไปได้อย่างไร

ทั้งที่เราต่างก็รู้ว่าไม่มีใครจะหนีความเจ็บป่วยไปได้พ้น แต่หลายๆ คนก็ยังไม่ได้สนใจสักเท่าไรว่า “ป่วยขึ้นมาแล้วจะรับมืออย่างไร?” เราต่างทราบดีว่า ป่วยก็ต้องไปหาหมอ แต่ก็น้อยคนนักที่จะคิดได้ว่า จะต้องเก็บเงิน ออมเงิน เผื่อฉุกเฉินไว้ใช้ยามเจ็บป่วยเท่าไรจึงจะเพียงพอให้รักษาตัวเองหาย และมีชีวิตก้าวต่อไปได้ โดยที่ไม่ต้องลำบากเป็นหนี้เป็นสิน ทั้งนี้ มีตัวอย่างจำนวนมากมายเหลือเกินที่ทำให้เราเห็นว่า เจ็บป่วยร้ายแรงครั้งเดียวนั้น ยิ่งกว่าถูกไฟไหม้ และเล่นพนันเสียอีก ดังนั้น คิดเผื่อถึงวันที่เราป่วยเอาไว้บ้าง ว่าจะเป็นอย่างไร คิดว่าจะรับมือไหวไหม และคิดหาวิธีรับมือให้ดีที่สุด เพื่อให้ชีวิตเราไม่สะดุดทั้งเรื่องสุขภาพ และสถานะทางการเงิน

2.“คิดเผื่อวันที่แก่เฒ่า” ว่าเราจะมีเงินใช้เพียงพอแค่ไหน

ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด คือ แนวทางในการใช้ชีวิตที่เราทุกคนต่างยึดมั่น และถูกสอนกันมาโดยตลอด จนบางทีเราก็เผลอลืมไปว่า ชีวิตในวันที่แก่ ในวัยเกษียณนั้น ก็ควรต้องได้รับการดูแลอย่างเต็มที่เช่นกัน ที่สำคัญเลยคือ เราต้องเตือนตัวเองให้ดีว่า วันที่เราแก่ตัวลงไป เราจะไม่ได้ทำงานหาเงินมีรายได้ได้เหมือนตอนหนุ่มๆ ดังนั้น จึงควรต้องคิดเผื่อไว้ด้วยว่า “จะต้องเก็บเงินเท่าไร” จึงมีเงินพอใช้เพียงพอให้ชีวิตเกษียณของเราอยู่ได้อย่างสบายใจสบายกายมากที่สุด ซึ่งถ้าเราไม่เผื่อวางแผนตรงนี้ไว้ สุดท้ายแล้วการมีอายุยืนยาวของเรา ก็อาจจะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความทุกข์ มากกว่ามีความสุขก็เป็นได้

3.“คิดเผื่อวันที่ตาย” ว่าคนที่เรารักจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร

หลายคนอาจรู้สึกว่า “โสด” ตัวคนเดียวไม่ต้องคิดอะไรก็ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วคนสำคัญในชีวิตเราไม่ได้มีแค่ ลูกกับภรรยาเท่านั้น แต่ยังมีพ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติสนิท ฯลฯ ซึ่งถ้ามองดูรอบตัวแล้วยังมีคนใกล้ชิดอยู่กับเรา ก็จำเป็นต้องคิดเผื่อไว้ด้วยว่า ถ้าเราตายไปนั้น พวกเขาได้รับผลกระทบอะไรหรือเปล่า เราเลี้ยงพ่อแม่ไหม? ถ้าเราเป็นคนดูแลท่าน เราตายไปใครจะดูแลท่านต่อ? ถ้าเราไม่ได้เป็นคนเลี้ยงท่าน แต่เราตายไป ก็เป็นภาระท่านที่ต้องจ่ายเงินก้อนสุดท้ายทำศพให้เราอีก จะดีกว่าไหมที่การจากไปของเรา ไม่ได้ทำให้ใครคนที่เรารักต้องรับภาระเลย ส่วนสำหรับคนที่มีครอบครัว มีลูก มีภรรยา ยิ่งต้องคิดเผื่อให้หนักเลยว่า ในวันที่เราไม่อยู่แล้ว ลูกเมียเราจะอยู่อย่างไร ซึ่งก็ต้องวางแผนให้ดี ให้รอบคอบ และผัดวันประกันพรุ่งไม่ได้ เพราะไม่มีใครรู้วันตาย แต่เราต่างรู้กันดีว่าถ้าเราซึ่งเป็นเสาหลักครอบครัวตายขึ้นมาเมื่อไร ลูกและคนที่เรารักจะมีชีวิตต่อไปอย่างยากลำบากแน่นอน

การใช้ชีวิตอย่างไม่คิดเผื่อ ไม่คิดวางแผนนั้น คือชนวนเหตุของการที่ทำให้เวลาเกิดปัญหาขึ้น เราจะเจ็บหนัก จนอาจกลับมาอยู่บนเส้นทางที่มั่นคงต่อไปไม่ได้ และสุดท้าย เราก็จะเสียโอกาสดีๆ มากมายในชีวิตไป อย่างเช่นหากล้มป่วยขึ้นมา ต้องใช้เงินเก็บทั้งหมดมาเป็นค่ารักษา จริงอยู่ที่เราหายกลับมา แต่เราก็คงเหนื่อยล้า และอาจหมดสิ้นกำลังใจที่จะก้าวต่อไปให้ถึงเป้าหมายอย่างที่ฝันเอาไว้ หรือหนักกว่านั้นคือเรากลายเป็นหนี้ ที่พอก้าวเข้าสู่วงจรของการเป็นหนี้แล้ว ก็ทำให้หลายๆ อย่างในชีวิตไม่เป็นเหมือนเดิมอีก คุณภาพชีวิตที่เคยดี ก็จะแย่ลงไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ดังนั้น ถ้าอยากให้ชีวิตเราในทุกๆ จังหวะ ราบรื่น แบบที่สะดุดล้มลงน้อยที่สุด สะดุดแล้วลุกกลับขึ้นมาได้ใหม่อย่างรวดเร็วล่ะก็ การคิดเผื่อ การวางแผนชีวิตเผื่อเพื่อวันข้างหน้า เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่หลีกหนีไม่พ้นอย่าง แก่ เจ็บ ตาย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจ และไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น