นักช้อปมือใหม่ ช้อปอย่างไร ให้มีเงินเหลือเก็บ!

เมื่อกิเลสของคุณเข้าครอบงำ วิณญาณ นักช้อป จึงเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอแต่สิ่งของที่อยากได้เต็มไปหมด ถ้า นักช้อป คนไหนบริหารเงินเก่งหน่อย ก็อาจจะมีเงินเหลือเก็บ แต่ส่วนมาก แท่บไม่เห็นเงินเหลือกลับมาเลย แถมยังทำให้ นักช้อป บางคนต้องต้มมาม่าทานทั้งเดือนเลยก็มี หากคุณอดใจไม่ได้จริงๆ ของมันต้องมี! บทความนี้ มีทริคดีๆ ที่นอกจากคุณจะได้ช้อปแล้ว คุณยังมีเงินเหลือเก็บอีกด้วย

1.ออมเงินก่อนช้อปปิ้ง

คนส่วนใหญ่เลือกที่จะช้อปก่อน ถ้ามีเงินเหลือจึงค่อยเก็บ ซึ่งวิธีนี้ 80% ของคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ มักไม่มีเงินเหลือเก็บ เพราะบางครั้งหากเงินเหลือก็จะใช้จนหมด หรือนำไปใช้ในเดือนถัดไป ซึ่ง นักช้อป ที่ฉลาด ควรที่จะออมเงินก่อนการช้อป ข้อดีของการออมเงินก่อนช้อป นั่นคือ คุณจะใช้เงินอย่างจำกัด ไม่ใช้จ่ายเกินความจำเป็น อยู่ในงบที่ตั้งไว้ นั่นเอง

2.คิดก่อนซื้ออยู่เสมอ

สำหรับนักช้อปมือใหม่ การคิดก่อนซื้อสินค้า จะช่วยให้คุณใช้จ่ายไปกับสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ อย่างในเดือนนี้ คุณลิตส์รายการไว้เลยว่า สิ่งไหนที่คุณจำเป็นต้องซื้อมากที่สุด ควรตั้งงบไว้เท่าไหร่ และไม่ควรเกินงบที่ตั้งไว้ ส่วนสิ่งไหนที่ไม่จำเป็น ยังไม่ได้ใช้ในตอนนี้ ควรพักไว้ก่อน และอีกเรื่องที่สำคัญ คือ คุณภาพกับราคา เรามักถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่า “ควรประหยัด” พอเจอสินค้าที่ราคาถูก ก็รีบซื้อโดยไม่คิดถึงคุณภาพ จริงอยู่ที่ถูกและดีก็มี แพงแต่ดีก็มี หรือแพงและยังไม่ดีอีก ก็มี ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับที่คุณเลือก อยู่ที่การตัดสินใจ แต่อยากจะให้มองอีกมุมนึงว่า บางอย่าง ถ้าคุณมองแต่ราคาถูกเพียงอย่างเดียว ก็อาจจะได้คุณภาพตามราคาอย่างที่เห็นกันตามที่ต่างๆ สมมุติ คุณซื้อโทรศัพท์แอนดรอยด์ยี่ห้อหนึ่ง ราคา 10,000 บาท แต่อีกรุ่นคือ Iphone 30,000 บาท จริงอยู่ที่เงิน 30,000 บาท สามารถซื้อแอนดรอยด์ได้ถึง 3 เครื่อง แต่คุณเชื่อไหมว่า ภายในระยะเวลา 4 ปี ผู้ที่ใช้แอนดรอยด์ เปลี่ยนโทรศัพท์แล้วถึง 4 เครื่อง ในขณะที่ผู้ใช้ Iphone ยังใช้เครื่องเดิมอยู่เลย เท่ากับว่า ภายใน 4 ปี ผู้ใช้แอนดรอยด์เสียเงินไปกับค่าโทรศัพท์ 40,000 บาท ส่วน Iphone เสีย 30,000 บาท จากที่ต้องการความประหยัด กลายเป็นว่า กลับจ่ายแพงกว่าเดิม ถ้าวันหนึ่งคุณต้องตัดสินใจซื้อสินค้าหรือต้องเลือกสัก 1 อย่าง อย่ามองเพียงราคาเป็นหลัก สินค้ามีราคาถูกก็จริง แต่ถ้าคุณภาพมันไม่ดี ก็อาจต้องเสียเงินซื้อใหม่ สู้เสียเงินเพิ่มขึ้นหน่อย แต่มีความทนทาน ใช้ได้นานกว่า แบบนี้จะประหยัดเงินมากกว่าไหม…

3.นำเงินส่วนที่อยากได้มาซื้อ

หากคุณอยากได้รองเท้าสักคู่หนึ่ง ราคา 5,000 บาท ถูกใจมาก ดูไว้เป็นเดือนๆ และคิดว่า สักวันนึงคุณต้องซื้อให้ได้ ถ้ามันตัดใจไม่ได้จริงๆ แนะนำว่า ให้นำเงินส่วนที่อยากได้มาซื้อ และเงินส่วนที่อยากได้นั้น มาจากไหนล่ะ? ก็มาจากเงินของคุณอีกนั่นแหละ เงินเดือนออกปุ้ป แบ่งเงินไว้เป็นส่วนๆทันที ส่วนนี้ของเงินออม ส่วนนี้เงินสำรอง เงินเกษียณ เงินสำหรับซื้อสิ่งที่คุณอยากได้ เมื่อคุณอยากได้รองเท้า คุณก็นำเงินส่วนนี้มาซื้อ ซึ่งข้อดีคือ คุณมีการวางแผนเรื่องเงินได้ดี ไม่ใช้เงินมั่ว ไม่เบียดเบียนเงินส่วนอื่น แต่ถ้าเงินของคุณไม่พอซื้อล่ะ ทำอย่างไร? คุณก็แค่รอวันที่เงินเก็บของคุณมากพอ หรือไม่ก็รอสินค้านั้นลดราคา

4.เลือกช้อปในช่วงเทศกาล

จะช้อปทั้งที ต้องช้อปอย่างชาญฉลาด คือ การเลือกช้อปในช่วงเทศกาล ทำไมนักช้อปถึงต้องช้อปในช่วงเทศกาล เพราะว่าส่วนมากทางเจ้าของแบรด์ต่างๆ มักจะจัดโปรโมชั่นในช่วงนี้นั่นเอง อย่างเทศกาลวันแม่ก็อาจจะจัดโปรโมชั่น ถ้าพาแม่มาช้อป ทั้งร้านจะลด 50 % หรือ ถ่ายรูปคู่กับคุณแม่ ลุ้นรับปลาสลิดหอมบางบ่อแท้ไปฉลองวันแม่ให้อิ่มแปล้พุงกาง เป็นต้น