อาจจะฟังไม่คุ้นหูสักเท่าไหร่นัก กับพีระมิดทางการเงิน แต่ถ้าใครที่คิดจะวางแผนการเงินแล้วล่ะก็ เชื่อว่าคงจะเคยได้ยินมาบ้าง พีระมิดทางการเงินเรียกได้ว่าหลักสูตรระดับสากลที่มักจะถูกนำไปใช้ในการวางแผนการเงินอยู่บ่อยๆ และเป็นสิ่งที่ทำให้มือใหม่สำหรับนักวางแผนการเงินนั้น เข้าใจในเรื่องของการวางแผนการเงินได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น พีระมิดทางการเงินจะช่วยให้เราสามารถลำดับความสำคัญว่า เราควรจะวางแผนเรื่องไหนก่อน เราควรจะวางแผนเรื่องไหนทีหลัง ซึ่งพีระมิดทางการเงิน จะแบ่งออกเป็น 4 ชั้น
ชั้นที่ 1 การวางแผนค่าใช้จ่าย
ก่อนอื่นเลยเราต้องทำรายรับรายจ่าย เพื่อที่จะได้เช็คค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าเดินทาง รวมไปถึงค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยด้วย การทำบัญชีรายรับรายจ่าย จะทำให้เราเห็นช่องโหว่ของเงินที่เรานำไปใช้โดยสินเปลือง ทำให้เราสามารถควบคุมการใช้เงินในส่วนนั้นได้ ต่อมาจะเป็นในเรื่องของการวางแผนค่าใช้จ่าย เมื่อเรารู้รายรับรายจ่ายของตัวเองแล้วว่า เราจะได้วางแผนการเงินของเราว่า เราจะใช้จ่ายอย่างไรให้เพียงพอ ใช้จ่ายอย่างไรให้มีเงินเก็บและใช้จ่ายอย่างไรให้ไม่เป็นหนี้
ชั้นที่ 2 การจัดการกับแผนความเสี่ยง
ข้อนี้เป็นข้อที่ค่อนข้างสำคัญ เราต้องเตรียมพร้อมทุกเมื่อที่จะรับมือกับความเสี่ยงต่างๆที่จะเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น การล้มละลาย โดนโกง การเจ็บป่วย อุบัติเหตุ หรือเหตุไม่คาดฝันต่างๆที่เกิดขึ้น การที่เราจัดการเตรียมรับมือกับความเสี่ยงนี้ไว้ หากมีเหตุไม่คาดฝันทีทำให้ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก จะทำให้เราไม่ต้องประสบกับปัญหาทางการเงิน เพราะเราได้เตรียมวางแผนรับมือกับความเสี่ยงไว้เรียบร้อยแล้วนั่นเอง
นอกจากนั้น สิ่งที่สำคัญในการเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงโดยตรงเลยก็คือการทำประกัน ไม่ว่าจะเป็น การทำประกันทรัพย์สิน การทำประกันรถยนต์ การทำประกันอัคคีภัย การทำประกันชีวิต ทุกประกันที่กล่าวมา ล้วนสำคัญทั้งนั้น ยิ่งเราไม่รู้อนาคต เรายิ่งต้องวางแผนในการจัดการกับความเสี่ยงตรงนี้ให้ดี ให้มั่นใจว่า ถ้าเกิดเหตุอะไร หรือเราเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ครอบครัวของเรานั้นจะต้องไม่ลำบาก
ชั้นที่ 3 วางแผนการออมและการลงทุน
เมื่อได้เงินมาให้เก็บก่อนใช้เสมอ ให้แบ่งเงินเก็บไว้ประมาน 10%-30% เพื่อที่จำนำเงินไปเก็บออมและลงทุน เพื่อให้เงินงอกเงยในอนาคต การเก็บออมหรือลงทุน เราก็สามารถเลือกเองได้ว่า จะเก็บออมหรือลงทุนแบบไหน ซึ่งเราสามารถเก็บออมและลงทุนได้กับธนาคาร การซื้อกองทุน การซื้อประกันชีวิต การซื้อหุ้น แต่ในส่วนของการลงทุนนั้น การลงทุนบางอย่างย่อมมีความเสี่ยง การที่เราเลือกจะลงทุน จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิเคราะห์ความเสี่ยงด้วยเช่นกัน แต่การออมเงินหรือลงทุนกับประกันชีวิต นอกจากผลตอบแทนที่ค่อนสูงแล้ว ยังได้ความคุ้มครองอีกด้วย
ชั้นที่ 4 การวางแผนภาษี
การวางแผนในเรื่องของภาษี เป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะคิดว่าไม่จำเป็นสักเท่าไหร่ แต่จริงๆแล้วก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ทั้งการคาดการณ์เงินที่ได้รับในปีนั้น เรื่องของการลดหย่อนภาษีอย่าง ค่าลดหย่อนบุตร ค่าลดหย่อนบิดามารดา ค่าลดหย่อนอุปการะเลี้ยงดูผู้ที่พิการ เงินบริจาค และผลิตภัณฑ์การเงินต่าง ๆ ที่สามารถนำมาลดหย่อนได้ ซึ่งในส่วนนี้เราก็ต้องศึกษาให้ดี เพื่อประโยชน์สูงสุดของเรา
เมื่อรู้จักกับพีระมิดทางการเงินแล้ว ก็หวังวางเราจะสามารถวางแผนการเงินได้อย่างแม่นยำ ไม่ผิดพลาดจนประสบกับปัญหาทางการเงินต่างๆ