มกราคม 16, 2025

4 ประโยชน์มหาศาล ที่เราได้จากการทำประกันชีวิต

พอได้ยินว่า “ประกัน” เกือบแทบทุกคนเลยก็ว่าได้ที่มักจะร้องยี้ แล้วปฏิเสธเสียงแข็งเอาไว้ก่อน ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลองเปิดใจดูด้วยซ้ำว่า จริงๆ แล้วประกันชีวิตนั้นดีอย่างไร ซึ่งถึงแม้ประกันชีวิตจะไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ดีที่สุด แต่ก็นับเป็น “ตัวช่วยสำคัญ” ที่ทำให้ชีวิตมั่นคง ตลอดจนมั่งคั่งมากขึ้นได้ ซึ่งสำหรับใครที่อยากทราบว่าประกันชีวิตดีตรงไหน มีประโยชน์อย่างไรนั้น วันนี้ 4 ประโยชน์มหาศาล ที่จะได้จากการทำประกันชีวิตเท่านั้น มาฝากกัน

1.ประกันชีวิต ทำให้ชีวิตเรามี “มูลค่า”

ไม่มีใครหนีความตายพ้น และเมื่อเราตาย หลายคนอาจจะบอกว่าไปสบาย หมดเคราะห์แล้ว ไม่ต้องลำบากแล้ว ซึ่งก็เป็นความจริง แต่ทั้งนี้ ความจริงอีกด้านหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ ในวันที่ลมหายใจเราสิ้นสุดลงนั้น “ลูกเมีย” คนใกล้ชิด และคนในครอบครัวเรา จะต้อง “รับภาระบางอย่างที่มีค่าใช้จ่ายเอาไว้เสมอ” อย่างน้อยที่สุดก็ “ค่าทำศพ” หรือ “ค่าใช้จ่ายก้อนสุดท้าย” ของชีวิตเรานั่นแหละ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย แต่เป็นหลักหมื่นหรือถึงหลายหมื่น แล้วหลังจากนั้น รายได้ที่เราเคยรับหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบก็จะขาดหายไป ทำให้คนที่เรารักต้องมารับภาระนั้นไว้แทน ซึ่งจุดนี้เอง ที่ประกันชีวิตทำให้ “ชีวิตเรามีค่า” มีราคาที่ช่วยเหลือคนรอบตัวเราได้ และทำให้เราตายจากไปอย่าง “เป็นภาระ” น้อยที่สุด

2.ประกันชีวิต ทำให้เรามี “มรดกหลักล้าน” ได้ง่ายขึ้น

หลายๆ คนทำงานเก็บเงินมาทั้งชีวิต ก็เพื่อส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับลูกเมีย แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องพบว่า แม้จะทำงานหนักแค่ไหน ก็ยังเก็บเงินไม่ได้สักที จะเก็บกี่ครั้งก็มีเรื่องให้ต้องใช้จ่ายถอนออกไปก่อนเสมอ จนชีวิตนี้ไม่เคยคิดเลยว่าจะมี “เงินล้าน” ส่งต่อให้คนที่รักได้สำเร็จในวันที่ตัวเองไม่อยู่แล้ว สำหรับใครก็ตามที่ปรารถนาการส่งมอบมรดกหลักล้านให้ลูกเมีย ประกันชีวิตคือเครื่องมือที่ทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้ง่ายที่สุด ยิ่งทำเร็วเท่าไร ก็ยิ่งง่ายมากขึ้นเท่านั้น โดยเราสามารถใช้การออมเงินเดือนละไม่กี่พัน หรือวันละหลักร้อย ก็สามารถสร้างมรดกหลักล้านได้อย่างง่ายดาย ถ้าความปรารถนาของเราคือการที่ตายไปแล้วมอบสมบัติให้กับคนที่รักได้ ประกันชีวิตคือทางออกที่เรียบง่ายและได้ผลที่สุด ที่ต่อให้เป็นหลัก 10 ล้าน ทุกคนก็สามารถทำได้ถ้าหากเข้าใจกลไกการทำงานของประกันชีวิต และวางแผนอย่างถูกวิธี

3.ประกันชีวิต ทำให้เรามีชีวิตเกษียณที่มีเงินใช้

หลายคนอาจจะยังเข้าใจผิดอยู่ว่า ประกันชีวิตจะได้เงินก็ต่อเมื่อตายเท่านั้น คือ ทำแล้วไม่ได้ใช้จะทำไปทำไม ทั้งนี้ ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์นั้น ต่อให้เราไม่ตาย ก็ยังได้เงินก้อนคืนกลับมาใช้เลี้ยงดูชีวิตต่อไปได้ ซึ่งรูปแบบการออมเงินผ่านประกันชีวิตแบบนี้ ทำให้เรามองเห็นอนาคตวัยเกษียณที่สวยงามได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เราเคยคิดกันบ้างหรือไม่ว่า หลังจากอายุ 60 ปี เราจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกกี่ปี? แล้วแต่ละปีเราต้องใช้เงินเท่าไร ลองสมมติง่ายๆ ว่าเราใช้เงินเดือนละ 30,000 บาท 1 ปี ก็คือ 360,000 บาท นั่นหมายความว่า ถ้าเราจะใช้ชีวิตเกษียณหลัง 60 ไปอีก 20 ปี เราต้องมีเงินเตรียมไว้ เท่ากับ 360,000 x 20 เป็นเงิน 7.2 ล้านบาท คำถามก็คือ วันนี้เราเริ่มว่างแผนทำให้ตัวเองมีเงินเก็บ 7.2 ล้านบาทตอนอายุ 60 แล้วหรือยัง? ซึ่งประกันชีวิตนั้น คือเครื่องมือสำคัญที่ทำให้เรามีเงินตามเป้าหมายได้ และทำให้มีได้มากกว่า 7 ล้านด้วย ถ้าหากเข้าใจประกันชีวิตมากพอ

4.ประกันชีวิต ทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่มากขึ้น

หลายๆ ครั้ง ชีวิตเราก็พลาดความท้าทาย พลาดโอกาสที่จะทำอะไรที่แปลกใหม่ ที่เต็มที่มากกว่าที่ทำอยู่ไป เพียงแค่เพราะเรากลัวว่า หากเราเป็นอะไรไป ทุกคนรอบตัวเราจะไปต่อไม่ได้ และจมอยู่กับความยากลำบาก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ประกันชีวิตก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้เรา “ใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่มากขึ้น” คือ ไม่ได้หมายความว่าเราประมาทได้ แต่หมายความว่า ทำให้เรามั่นใจได้ว่า ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรขึ้นมา ประกันชีวิตที่ทำไว้ก็จะช่วยดูแลและเยียวยาคนที่เรารักแทนเรา เมื่อเราอุ่นใจมากขึ้น ก็จะสามารถมีพลังในการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่มากขึ้น และแน่นอนว่า จะนำมาซึ่งโอกาสที่ทำให้เราก้าวไปได้ไกลกว่านี้ ประสบความสำเร็จได้ไกลกว่านี้ และทำให้ชีวิตครอบครัว ชีวิตเราและคนที่รัก สนุก มั่นคง และมีความสุขได้มากขึ้นกว่านี้

ประโยชน์ของประกันชีวิตนั้น ยังมีอีกมากมายหลายมิติ ขึ้นอยู่กับมุมมองที่เรามีต่อผลิตภัณฑ์ ยิ่งเราเข้าใจประกันชีวิตมากเท่าไร เราก็จะสามารถใช้ประกันชีวิต มาออกแบบและวางแผนชีวิตตัวเราและครอบครัว ให้เดินไปบนเส้นทางของความสุขได้มากเท่านั้น ซึ่งในบรรดาผลิตภัณฑ์ทางการเงินทุกชนิดที่มีอยู่บนโลกใบนี้ ประกันชีวิตถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนน้อยที่สุด และให้ผลตอบแทนที่ “แน่นอนที่สุด” โดยแม้จะไม่ได้เป็นผลตอบแทนที่มากมายในพริบตา แต่ก็เป็น “ผลตอบแทน” ที่ทำให้เราวางแผนชีวิตได้ว่า จะใช้ชีวิตอย่างไร เพื่อให้สถานะการเงินมีความมั่นคงที่สุด แม้ในยามที่ลมหายใจเราหยุดไปแล้ว แต่ชีวิตของคนที่เรารักก็ยังคงดำเนินต่อไปได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น