“ออมเงินกับประกันชีวิต” กับ “ฝากเงินไว้กับธนาคาร” เลือกแบบไหนดีนะ?

บางคนอาจจะทราบถึงความแตกต่างของการฝากเงินทั้งสองแบบนี้แล้ว แต่พอคิดที่จะตั้งใจออมเงิน ก็ยังเลือกไม่ได้เสียที ว่าจะออมเงินกับประกันชีวิตดี หรือจะออมเงินกับธนาคารดี แต่ก็ยังมีคนอีกส่วนหนึ่ง ที่เข้าใจว่าการทำประกันชีวิต เหมือนกับการฝากเงินไว้กับธนาคาร แต่อันที่จริงแล้ว มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งต่างกันอย่างไรนั้น บทความนี้จะไขข้อข้องใจของทั้ง 2 แบบนี้ ว่าจริงๆแล้วมีความต่างกันอย่างไร และสำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจ บทความนี้จะทำให้การตัดสินใจเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

ออมเงินกับประกันชีวิต

ในการทำประกันชีวิตนั้น หากเรามีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญาของกรมธรรม์ เราก็จะได้รับเงินคืนตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ หรือหากเราเสียชีวิตภายในระยะเวลาของสัญญาภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ ถึงแม้ว่าไม่ได้ชำระเบี้ยประกันภัยครบตามจำนวนงวดที่กำหนดไว้ บริษัทประกันฯ จะจ่ายเงินตามจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ให้แก่ผู้รับประโยชน์ที่คุณระบุไว้ในสัญญา ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าเบี้ยประกันภัยที่ชำระไปแล้ว แต่ในขณะเดียวกันการที่เราฝากเงินกับธนาคารนั้น เราหรือทายาท (หากตนเองเสียชีวิต) จะได้รับจำนวนเงินเท่าที่ฝากไว้พร้อมกับดอกเบี้ย

ความคุ้มครองชีวิต หากเราทำประกันชีวิต ประกันชีวิตนั้นจะช่วยสร้างหลักประกันและความมั่นคงให้คุณและครอบครัว ยิ่งโดยเฉพาะหากเราเป็นหัวหน้าของครอบครัว เงินที่ได้รับจากประกันจะช่วยให้ครอบครัวหรือบุคคลที่อยู่ข้างหลัง ใช้ดำรงชีวิตต่อไปได้ นอกจากนี้ เรายังสามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติม เพื่อขยายความคุ้มครอง เช่น ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรงต่าง ๆ ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เราไปฝากเงินไว้กับธนาคาร แน่นอนว่าการฝากเงินจะไม่มีเรื่องความคุ้มครองชีวิต ยกเว้นเงินฝากบางประเภทเท่านั้น

สิทธิประโยชน์ทางภาษี กรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป และมีเงินคืนระหว่างสัญญาไม่เกินร้อยละ 20 ของเบี้ยประกันชีวิตในแต่ละปี เราสามารถนำเงินที่จ่ายเป็นค่าเบี้ยประกันชีวิตในแต่ละปีไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนเงินฝากธนาคาร เราจะไม่สามารถนำเงินฝากดังกล่าวไปหักลดหย่อนภาษีได้

ฝากเงินไว้กับธนาคาร

หากเราฝากเงินกับทางธนาคาร เราสามารถฝากเงิน ถอนเงิน หรือปิดบัญชีเมื่อใดก็ได้ โดยที่เราจะได้รับเงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ย ในขณะที่การทำประกันชีวิต เราจะต้องชำระเบี้ยประกันภัยตามงวดการชำระเบี้ยประกันภัยที่กำหนดไว้ ไม่เช่นนั้นกรมธรรม์ที่ทำไว้จะสิ้นผลบังคับ และหากต้องการยกเลิกสัญญาประกันชีวิตก่อนครบกำหนดสัญญา เราก็จะไม่ได้รับเงินที่ได้ชำระเบี้ยประกันภัยคืนเต็มจำนวน โดยทั่วไปกรมธรรม์ประกันชีวิตจะเริ่มมีมูลค่าเวนคืนหรือมูลค่าเงินสดเมื่อกรมธรรม์มีอายุครบ 2 ปีขึ้นไป

ดังนั้น หากต้องการใช้เงินหรือต้องการยกเลิกสัญญากรมธรรม์ในปีแรก เราอาจไม่ได้รับเงินคืนเลย หรือหากยกเลิกกรมธรรม์ เมื่อกรมธรรม์เริ่มมีมูลค่าเงินสดคืนให้ จำนวนเงินที่ได้รับคืน อาจน้อยกว่าเบี้ยประกันภัยที่ได้ชำระไป ส่วนในเรื่องของผลตอบแทนเงินฝากนั้น จะอยู่ในรูปแบบของดอกเบี้ย ซึ่งเราจะทราบอัตราผลตอบแทนที่ได้รับค่อนข้างแน่นอน เมื่อเงินฝากครบกำหนดระยะเวลา หรือทำการปิดบัญชี เราจะได้รับเงินคืนเท่ากับเงินต้นที่ฝากไว้พร้อมกับดอกเบี้ยตามที่ธนาคารกำหนด

ถ้าให้เราเลือกระหว่าง “ออมเงินกับประกันชีวิต” กับ “ฝากเงินไว้กับธนาคาร” เลือกแบบไหนดี เราไม่สามารถตอบได้ว่าแบบไหนดี แต่เราสามารถให้คำแนะนำได้คือ อย่างแรกเลย เราต้องมองที่ตัวเราเองเสียก่อนว่า วัตถุประสงค์ของเราคืออะไร ต้องการแบบไหน หากเราต้องการความคุ้มครองชีวิต ความคุ้มครองคนในครอบครัว ออมเงินอย่างสม่ำเสมอ ได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ประกันชีวิตคือคำตอบ แต่ถ้าหากเราต้องการสภาพคล่อง ก็ควรเลือกฝากเงินกับทางธนาคารนั่นเอง รู้แบบนี้แล้วก็เลือกตามที่เราต้องการได้เลย