เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน เราก็คงมีความคิดที่อยากทำประกันชีวิตติดตัวไว้ แน่นอนเรารู้อยู่แล้วว่าการทำประกันชีวิต คือ การช่วยแบ่งเบาความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับเราในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงด้านชีวิต สุขภาพ รวมถึงด้านการเงิน ดังนั้น นอกจากกรมธรรม์ประกันชีวิตที่เหมาะสมแล้ว บริษัทประกันชีวิตก็มีความสำคัญอย่างมาก เพราะถ้าเราเลือกบริษัทผิด ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาในอนาคต และอาจจะต้องมานั่งเสียใจภายหลัง ซึ่งเราได้นำเทคนิคดีๆในการเลือกประกันชีวิต มีด้วยกัน 4 ข้อดังนี้
1.ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันชีวิต
สิ่งแรกเลย ที่บริษัทประกันชีวิตต้องมีคือ ความน่าเชื่อถือ และสิ่งนี้ เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะถ้าบริษัทนั้นไม่มีความเชื่อถือใดๆเลย ผู้ที่จะได้รับความเสี่ยงมากที่สุด นั่นคือตัวเราเอง ซึ่งไม่คุ้มเลย อีกทั้ง ค่าเบี้ยประกันชีวิต ที่จ่ายในแต่ละปี ย่อมเป็นเงินจำนวนไม่น้อย
2.ฐานะทางการเงินของบริษัทประกันชีวิต
รู้หรือไม่ว่าฐานะทางการเงินของบริษัทประกันชีวิต ก็มีส่วนสำคัญ ซึ่งฐานะทางกันเงินและความคล่องตัวทางการเงินมันมีความสัมพันธ์กัน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเรามีการเรียกเคลมประกันชีวิตที่ตรงตามเงื่อนไขความคุ้มครองของบริษัทประกันทุกอย่าง นั่นหมายความว่า เรามีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินชดเชยความเสียหายจากกรมธรรม์ประกันที่ทำไว้ แต่บังเอิญว่า เราทำประกันชีวิตกับบริษัทประกันที่มีความคล่องตัวทางการเงินต่ำ เราก็จะได้รับความเสี่ยง ที่จะไม่ได้รับเงินชดเชยกับความเสียหายที่เกิดขึ้น
เท่ากับว่าเบี้ยประกันชีวิตที่จ่ายไปไม่มีความหมายนั่นเอง แต่ถ้าหากเราเลือกทำประกันชีวิตกับบริษัทที่มีความคล่องตัวทางการเงินสูง เมื่อมีการเรียกเคลมประกันและเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ เราก็มั่นใจได้เลยว่าจะได้รับเงินชดเชยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์อย่างแน่นอน
3.พิจารณาจากแพ็กเกจกรมธรรม์
นอกจากจะพิจารณาเรื่องความน่าเชื่อถือ ฐานะทางการเงินของบริษัทประกันชีวิตแล้ว สิ่งที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาดเลย คือ การพิจารณาแพ็กเกจ เพราะว่าเราจะต้องเลือกความคุ้มครองที่ต้องการ ค่าเบี้ยประกันชีวิต สิ่งเหล่านี้ จะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกประกันชีวิตในรูปแบบที่ต้องการได้มากที่สุด แต่ถ้าเป็นไปได้ควรที่จะเปรียบเทียบแพ็กเกจกรมธรรม์หลายๆบริษัท เพื่อเราจะได้ตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
4.ศึกษาเงื่อนไขการเคลมประกัน และบริการหลังการขาย
เราควรที่จะศึกษาเงื่อนไขการเคลมประกันและการบริการหลังการขายของบริษัทนั้นๆเสียก่อน ทั้งในเรื่องของประวัติ การให้บริการหลังการขาย การเรียกเคลมประกันในกรณีต่างๆ ระยะเวลาการจ่ายเงินชดเชย เป็นต้น เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเรียกเคลมประกันในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น บริษัทประกันมีการจ่ายเงินทดแทนล่าช้า บริษัทประกันปฎิเสธการจ่ายเงินทดแทน
4 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น ล้วนแล้วเป็นสิ่งที่เราห้ามมองข้ามเลยเด็ดขาด และที่อยากจะฝากไว้อีกข้อคือ การที่เราจะเลือกซื้อประกันชีวิต อย่าซื้อประกันชีวิตเพียงเพราะเกรงใจ เพราะความเกรงใจจะทำให้เราไม่ได้แพ็กเกจประกันชีวิตตามที่เราต้องการ ส่วนสำหรับผู้ที่กำลังสนใจ อย่าลืมที่จะศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนทุกครั้ง เพื่อประโยชน์ของตนเอง จะได้ไม่ผิดหวังภายหลัง