หลายคนสนใจที่จะทำประกันชีวิต แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ ว่าจะเลือกทำประกันชีวิตแบบไหนดี ให้เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด ในบทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญของประกันชีวิตไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งข้อดีและข้อเสีย เพื่อให้ผู้ที่สนใจซื้อประกันชีวิต ได้ตัดสินใจง่ายมากยิ่งขึ้น โดยประกันชีวิตนั้น มีด้วยกัน 5 แบบ ได้แก่
1.ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา คือประกันชีวิตที่เน้นการคุ้มครองระยะสั้น โดยเราเลือก ช่วงเวลาในการจ่ายเบี้ยและรับการคุ้มครองได้เอง ตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น 5 ปี / 10 ปี / 15 ปี เป็นต้น อยากคุ้มครองกี่ปีก็จ่ายเบี้ยเท่ากับจำนวนปีนั้นๆ ข้อดีคือ เลือกระยะเวลาคุ้มครองเองได้ และถือเป็นแบบประกันที่เบี้ยประกันถูกที่สุด แต่ข้อเสียคือ ไม่มีมูลค่าเงินสดกรมธรรม์ เพราะเบี้ยประกันเป็นแบบจ่ายทิ้งปีต่อปี เหมือนประกันรถยนต์หรือประกันสุขภาพนั่นเอง
2.ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ คือประกันชีวิตประเภทที่เน้นการคุ้มครองระยะยาว โดยเราต้องจ่ายเบี้ยประกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง เช่น 5 ปี 10 ปี 15 ปี หรือ 20 ปี แต่ให้การคุ้มครองเราตลอดชีพ หรือจนถึงอายุ 90 ปี หรือ 99 ปี เป็นต้น โดยที่ตลอดระยะเวลา ส่วนใหญ่จะไม่มีเงินคืน หรือถ้ามีก็เป็นประเภทตลอดชีพที่จ่ายปันผล
ซึ่งปันผลจะได้เท่าไหร่ขึ้นอยู่กับการบริหารการลงทุนของบริษัทประกัน ข้อดีคือ เบี้ยค่อนข้างถูก คุ้มครองตลอดชีพ เหมาะกับผู้ที่มีภาระรับผิดชอบยาวนาน หรือต้องการวางแผนสร้างกองมรดกให้ลูกหลาน แต่ข้อเสียคือ ไม่มีเงินคืน หากต้องการเงินคืนเป็นก้อนใหญ่ต้องปิดกรมธรรม์ แล้วเวนคืนมูลค่าเงินสด ทำให้ต้องหยุดการคุ้มครองไปด้วย อาจจะใช้เมื่อคิดว่าไม่จำเป็นต้องการการคุ้มครองแล้ว และอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่ได้ต้องการการคุ้มครองนานถึงตลอดชีพ
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ คือประกันชีวิตที่เน้นการออมเงินในแบบที่เราคุ้นเคยกัน โดยมีทั้งแบบระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ตั้งแต่ 3-5 ปี จนถึง 25-30 ปี ข้อดีคือ เป็นการออมที่การันตีเงินเป้าหมาย ปราศจากความเสี่ยง และช่วยสร้างวินัยในการออมให้เราในเชิงบังคับ เพราะเราไม่สามารถถอนเงินออกจากกรมธรรม์ได้ แต่ข้อเสียคือ ทุนประกันได้ไม่สูง เมื่อเทียบกับแบบประกันอื่นๆ หากต้องจ่ายเบี้ยประกันที่เท่ากัน จึงไม่เหมาะกับการทำเพื่อการคุ้มครอง อีกทั้ง ผลตอบแทนจากการออมเงินไม่สูง เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่น
ประกันชีวิตแบบบำนาญ
ประกันชีวิตแบบบำนาญ คือประกันชีวิตที่เน้นการออมเงินคล้ายๆกับแบบสะสมทรัพย์ แต่แบบบำนาญจะเป็นการออมเงิน เพื่อการเกษียณโดยเฉพาะ ซึ่งจะต้องออมอย่างต่อเนื่องจนถึงอายุเกษียณ เช่น 55 60 หรือ 65 ปี และหลังเกษียณจะมีเงินคืนจากแบบประกันทุกๆปี ไปจนกระทั่งอายุ 85 หรือ 90 ปี ข้อดีและข้อเสียเช่นเดียวกับแบบสะสมทรัพย์ แต่ประกันชีวิตแบบบำนาญจะมีผลตอบแทนสูงกว่าเล็กน้อยและมีเงินคืนที่ยาวนาน
ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน
ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน คือประกันชีวิตที่นำเบี้ยส่วนหนึ่งของเราไปลงทุนในกองทุนรวม โดยที่เราสามารถเลือกกอง จัดพอร์ตการลงทุนได้เอง และเบี้ยอีกส่วน จะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการทำประกันคุ้มครองชีวิต ข้อดีคือ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถกำหนดเบี้ยจ่าย ทุนประกัน ระยะเวลาจ่ายเบี้ย และระยะเวลาคุ้มครองเองได้ อีกทั้ง ยังมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่าแบบประกันทุกรูปแบบ รวมถึงมีระบบในการบริหารการลงทุนอัตโนมัติ ทั้งการปรับสมดุลพอร์ต และการทำ DCA แต่ข้อเสียคือ มีความเสี่ยงจากการลงทุนเพิ่มเข้ามา ทำให้เกิดความไม่แน่นอนของผลตอบแทน
หวังว่า ทุกคนคงจะตัดสินใจได้บ้างแล้วว่า ตนเองนั้นเหมาะสม หรือจำเป็นที่จะต้องทำประกันชีวิตแบบไหน ถ้าต้องการความคุ้มครองระยะยาว ก็เลือกประกันชีวิตแบบตลอดชีพ หรือบางคนต้องการเบี้ยประกันถูก แต่อยากกำหนดระยะคุ้มครองได้ด้วย ก็เลือกประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา ทุกอย่างเราสามารถเลือกได้ จะทำประกันชีวิตทั้งที ควรเลือกให้เหมาะกับความต้องการของเราดีที่สุด