วางแผนการเงินสำหรับธุรกิจ

แน่นอนกว่าการจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างนั้น ยอมจะต้องมีเรื่องของเงินทุนเช้ามาเกี่ยวข้องเสมอ เพราะถ้าหากไม่มีเงินทุนนั้น สุดท้ายแล้วธุรกิจของเรา ก็ไม่สามารถเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ ขึ้นชื่อว่าการทำธุรกิจ ย่อมมีความเสี่ยงอยู่แล้ว ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าธุรกิจที่เราทำ จะประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จจนกว่าจะลงมือทำ เพราะฉะนั้น เราถึงต้องมีการวางแผนการเงินในการทำธุรกิจไว้ เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ธุรกิจของเราได้ดำเนินการไปอย่างราบรื่น

1.วางแผนเป้าหมายของธุรกิจ

วางแผนว่าเราอยากจะทำธุรกิจอะไร แนวไหน และต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่ในการทำธุรกิจนี้ ที่สำคัญคือต้องคอยติดตามสถานการณ์บ้านเมือง อย่างเศรษฐกิจตอนนี้เป็นอย่างไร เหมาะการลงทุนหรือไม่? ควรวิเคราะห์ในส่วนนี้ให้ดี

2.ตรวจสอบการเงินเสมอ

ไม่ว่าจะเป็นเงินในบัญชีธนาคารหรือเงินสด ก็ควรหมั่นตรวจสอบทั้งรายรับละรายจ่ายทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรายรับรายจ่ายส่วนร่วมของธุรกิจหรือรายรับรายจ่ายส่วนตัว แต่อย่าลืมว่าจะต้องแยกบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนของธุรกิจ คนส่วนใหญ่ที่มักจะประสบกับปัญหาเงินขาด เงินหาย เนื่องจากไม่ได้แยกบัญชีในส่วนของธุรกิจและบัญชีใช้จ่ายส่วนตัวเอาไว้ จึงทำให้ไม่สามารถจัดสรรในเรื่องของการเงินได้อย่างเป็นระบบ และอาจจะนำพามาซึ่งปัญหาในที่สุด

3.ประเมินความเสี่ยง

การคิดจะทำธุรกิจย่อมมีความเสี่ยง ถ้าทำธุรกิจได้ถูกจังหวะ ถูกเวลา ธุรกิจก็อาจจะรุ่งเรืองมากๆ แต่ถ้าไม่ล่ะ เราจะทำอย่างไร เราต้องทำการเตรียมรับมือกับปัญหาต่างๆตรงนี้ไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเงินทุน เงินหมุนเวียน เงินฉุกเฉิน หรือแม้กระทั่งปัญหาการคอมเพลนจากลูกค้าก็เช่นกัน

4.สำรองเงินไว้ในกรณีฉุกเฉิน

ข้อนี้เป็นข้อที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ถ้าหากเงินในการทำธุรกิจนั้นไม่เพียงพอในการดำเนินธุรกิจแล้วล่ะก็ ธุรกิจของเรา ก็อาจจะต้องหยุดกะทันหัน เนื่องจากเหตุไม่คาดฝัน อย่างการประท้วง การเคอร์ฟิว ไฟไหม้หรือน้ำท่วม และถ้าหากเราไม่ได้สำรองเงินใช้จ่ายฉุกเฉินไว้ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเราอย่างแน่นอน

5.มีกฎระเบียบและจัดให้เป็นระบบ

การนำทุกอย่างไปเข้าระบบ จะเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับตัวเจ้าของธุรกิจเอง เพราะถ้าหากเราเริ่มต้นธุรกิจคนเดียว ทำอะไรเองหมดซะทุกอย่าง ถ้าหากไม่เริ่มจัดการทุกอย่างให้เป็นระเบียบ ไม่จัดการระบบให้ดี ก็คงจะเหนื่อยมากแน่ๆ ในตอนแรก แต่ถ้าเราจัดระบบของธุรกิจดีๆ รับรองว่า เราจะทำงานได้ง่ายขึ้นเป็นเท่าตัว

6.ประเมินตัวเองและคู่แข่ง

“ รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง ” หากเราประเมินแต่คู่แข่งและไม่ประเมินตัวเอง ก็คงจะมีช่องโหว่ทางธุรกิจ เนื่องจากไม่ศึกษา ไม่เรียนรู้ในธุรกิจของตนเองให้ดีเพียงพอที่จะนำไปพัฒนาให้ดีกว่าเดิม

7.หาจุดแข็ง

การมีจุดแข็งเป็นของตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่จะชี้ขาดได้เลยว่า ผู้บริโภคนั้นจะเลือกใช้ เลือกซื้อสินค้าและบริการของใคร ถ้าหากเรามีจุดแข็ง มีจุดขายแล้วล่ะก็ ไม่ต้องห่วงธุรกิจเลยว่า มันจะไม่ประสบความสำเร็จ กลับกัน ถ้าร้านของเราไม่มีจุดเด่น ไม่มีจุดขายอะไรเลย ก็คงไม่สามารถเรียกลูกค้าได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะฉะนั้น อย่างลืมวาง อย่าลืมหาจุดแข็งของธุรกิจไว้ล่วงหน้า

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเราไม่รู้จักที่จะจัดการ จัดระบบระเบียบของธุรกิจ ก็อาจจะส่งผลให้ธุรกิจล่มไม่เป็นท่า สุดท้ายเงินทุนก็ไปจมกับการลงทุนในธุรกิจเสียหมด ดังนั้น อย่าลืมที่จะวางแผนการเงินเอาไว้เสมอ เพราะเรื่องของเงินทุนเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆเลยนั่นเอง